หลังจากที่แอปเปิลประกาศราคา iPad Pro 9.7 นิ้วในประเทศไทยเป็นอย่างทางการแล้ว และเริ่มวางจำหน่ายใน iStudio ทุกสาขาเช่นกัน ซึ่งทำให้หลาย ๆ คนถึงกับช็อค
1. เครื่องเบา ไม่ใหญ่จนเกินไป
หลายคนอาจจะบ่นว่า iPad Pro 12.9 นิ้ว ใหญ่มาก ใหญ่เกินไป พกลำบาก คงแค่ใช้งานที่บ้านเท่านั้นแหละ และนี่อาจจะเป็นสาเหตุที่แอปเปิลทำ iPad Pro จอ 9.7 นิ้วมาซึ่งมามีขนาดเท่า iPad Air 2 บางเบา พกง่าย หมดปัญหาพกลำบากแล้ว
2. มีลำโพง 4 ตัว ดูซีรีย์ได้สะใจ
ถ้าใครชอบดูหนัง ดูซีรีย์เกาหลี จะต้องชอบแน่นอน เพราะแอปเปิลจับยัดลำโพงถึง 4 ตัวมาให้ใน iPad Pro ด้วย ซึ่งข้อดีของมีลำโพงสีตัวก็คือ เสียงดัง และยังสามารถฟังเพลง ดูหนังเป็นสเตอริโอได้อีกด้วย
3. กล้องหน้า/หลัง ชัดเทียบเท่า iPhone 6s
ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าแอปเปิลจัดสเปคแบบไม่กั๊กจริง ๆ เพราะว่า iPad Pro 9.7 นิ้ว ใส่กล้องมาให้ถึง 12 ล้านพิกเซล เทียบเท่ากับ iPhone 6s แถมเป็นเซ็นเซอร์เดียวกันอีกด้วย นอกจากนี้กล้องหน้าก็ยังให้มาถึง 5 ล้านพิกเซล เรียกได้ว่าจะ Selfie หรือว่าถ่ายรูปทั่วไป สบาย คุ้มราคาแน่นอน แถมรองรับ Live Photo ด้วย
4. มีสีชมพู Rose Gold ให้เลือก
เป็นสีแห่งปีจริง ๆ กับสีชมพู Rose Gold ของแอปเปิล สีชมพู Rose Gold เดิมที่เป็นสีที่ชูจุดเด่นของ iPhone 6s จนทำให้ยอดขาย iPhone 6s สี Rose Gold ขายดีสุด นอกจากนี้แอปเปิลยังทำ iPhone SE, หูฟัง beats, แท่นชาร์จ และคาดว่าจะทำ Macbook สี Rose Gold เพิ่มมาในอนาคตอีกด้วย
5. หน้าจอสีสมจริงกว่า รุ่น 12.9 นิ้ว
ต่อมาหน้าจอของ iPad Pro รุ่น 9.7 นิ้ว มีเทคโนโลยี Wide Color และ True Tone Display ซึ่งจะทำให้ภาพที่แสดงมีสีที่คมชัด ถูกต้อง สมจริงกว่าหน้าจอรุ่นอื่น ๆ รวมไปถึงรุ่นพี่อย่าง iPad Pro 12.9 นิ้ว ก็ยังไม่มีเทคโนโลยีนี้อีกด้วย
6. รองรับวีดิโอ 4K ด้วย
การถ่ายวีดิโอเดี๋ยวนี้ เรามาถึงในยุค 4K กันแล้ว ซึ่ง iPhone 6s เป็นตัวแรกของแอปเปิลที่สามารถถ่ายวีดิโอความละเอียดระดับ 4K ได้ จริงอยู่การถ่ายวีดิโอระดับ 4K มันมีไฟล์ขนาดใหญ่กว่า Full HD 1080p มาก และนี่ก็คงเป็นอีกเหตุผลที่แอปเปิล เริ่มขายความจุ 256 GB บน iPad Pro เช่นกัน
7. ทำงานตัดวีดิโอ กราฟฟิก ออกแบบดีเยี่ยม
iPad Pro ออกแบบมาเพื่อทำงานเอกสาร ตัดวีดิโอ ออกแบบชิ้นงาน 3 มิติ ได้ดีมาก เพราะนอกจากเครื่องจะแรงแล้ว ยังมีแอพรองรับการทำงานพวกนี้เยอะมาก ซึ่งเป็นแอพคุณภาพทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Canva, Shapr3D, Concepts, GarageBand, AutoCAD 360, Microsoft Office (Word, Excel, PowerPoint) และอื่น ๆ อีกเพียบ
8. เครื่องเร็วแรง ด้วยชิป Apple A9X
และอีกหนึ่งอย่างที่ควรซื้อ iPad Pro มาเล่นก็คือ เครื่องเร็วแรง ลอยแพช้าแน่นอน เมื่อเทียบสเปค iPad Pro ระหว่างรุ่น 9.7 กับ 12.9 นิ้ว ความต่างของสเปคนั่นก็คือรุ่น 12.9 นิ้ว ให้ RAM มา 4GB เต็ม แต่รุ่น 9.7 นิ้วให้ RAM มาแค่ 2 GB เท่านั้น แต่เมื่อเทียบกับความเร็วของชิป Apple A9X แล้วแทบจะไม่ต่างกันมา
เอาเป็นว่าถ้าใครคิดจะซื้อ iPad Air 2 ก็ลองคิดในจุดนี้ด้วยว่าเวลาที่จะตกรุ่น โดนลอยแพก็อาจจะเร็วกว่า iPad Pro อยู่ 1-2 ปีเลยทีเดียว
9. มี Smart Keyboard ให้พิมพ์ง่ายขึ้น
ต่อมา Smart Keyboard ที่ขายควบคู่กับ iPad Pro ทั้งรุ่น 9.7 และ 12.9 นิ้ว เป็นคีร์บอร์ดที่สามารถทำหน้าที่เป็น Cover ได้ในตัว ซึ่ง Smart Keyboard นี้จะเชื่อมต่อกับ iPad Pro ผ่านทาง Smart Connector ซึ่งมันเป็นพอร์ตที่เป็นแม่เหล็ก แค่วางแปะกับคีร์บอร์ดก็สามารถใช้งานได้ทันที ไม่ต้องเชื่อมต่อ Bluetooth ใด ๆ ทั้งสิ้น
ซึ่ง Smart Keyboard นี้มันเป็นคีร์บอร์ดแบบใหม่ แบบเดียวกับใน Macbook 12 นิ้ว คือเป็น Butterfly Mechanism ทำให้เราพิมพ์ได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น เพราะไม่ว่าเราจะกดไปตรงไหนของปุ่ม ปุ่มก็จะจมลงและพิมพ์ตัวอักษรให้ทันที ไม่จำเป็นต้องกดบริเวณตรงกลางเหมือนคีร์บอร์ Macbook รุ่นเก่า ๆ
10. Apple Pencil คือ Killer Feature สำหรับ iPad Pro
และสุดท้ายบอกได้เลยร้อยทั้งร้อย คนที่อยากจะซื้อ iPad Pro มาใช้งาน สาเหตุหลักเลยก็คือมันรองรับ Apple Pencil ซึ่งมันสามารถใช้งานกับ iPad Pro ได้เท่านั้น ไม่สามารถใช้งานร่วมกับ iPad Air 2 หรือ iPad mini รุ่นก่อน ๆ ได้เลย
ทำให้คนที่อยากจะลองจับดินสอ วาด ๆ ขีด ๆ เขียน ๆ คงต้องจัด iPad Pro นี้แน่นอน ซึ่งใครได้ไปลองใช้งานที่ร้าน iStudio แล้ว ก็จะพบว่ามันดีจริง ๆ Feeling เหมือนวาดดินสอบนกระดาษจริง ๆ
สุดท้ายสำหรับใครที่สนใจซื้อ iPad Pro ไม่ว่าจะเป็นรุ่น 9.7 หรือว่า 12.9 นิ้ว ก็สามารถกดสั่งซื้อที่ Apple Online Store (TH) ได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น
สั่งซื้อ iPad Pro ได้ที่ >>> Apple Online Store (TH)
เรียบเรียงโดย
ทีมงาน MacThai